school age children to teenagers
สารอาหารและโภชนาการที่ครบถ้วนเหมาะสมกับเด็ก ช่วงวัยเรียน
ช่วงวัยเรียน เป็นวัยที่กำลังเจริญเติบโตและเรียนรู้ ต้องการสารอาหารและโภชนาการที่ครบถ้วนเพื่อพัฒนาการทางร่างกายและสมอง สารอาหารที่สำคัญสำหรับเด็กวัยเรียน ได้แก่
คาร์โบไฮเดรต เป็นสารอาหารให้พลังงานหลักสำหรับร่างกาย เด็กวัยเรียนควรได้รับคาร์โบไฮเดรตประมาณ 45-65% ของพลังงานทั้งหมดในแต่ละวัน แหล่งคาร์โบไฮเดรตที่ดี ได้แก่ ข้าว แป้ง น้ำตาล ผลไม้ และผัก
โปรตีน เป็นสารอาหารที่จำเป็นสำหรับการเจริญเติบโตและซ่อมแซมเนื้อเยื่อต่างๆ เด็กวัยเรียนควรได้รับโปรตีนประมาณ 10-15% ของพลังงานทั้งหมดในแต่ละวัน แหล่งโปรตีนที่ดี ได้แก่ เนื้อสัตว์ ไข่ นม ถั่ว และเต้าหู้
ไขมัน เป็นสารอาหารที่จำเป็นสำหรับดูดซึมวิตามินบางชนิด เด็กในช่วงวัยเรียนควรได้รับไขมันประมาณ 25-35% ของพลังงานทั้งหมดในแต่ละวัน แหล่งไขมันที่ดี ได้แก่ น้ำมันพืช ปลา และถั่ว
วิตามินและแร่ธาตุ เป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อการทำงานของร่างกาย เด็กวัยเรียนควรได้รับวิตามินและแร่ธาตุอย่างเพียงพอ โดยเฉพาะวิตามิน A วิตามิน D วิตามิน C ธาตุเหล็ก แคลเซียม และสังกะสี
แนวทางการจัดอาหารให้เด็กวัยเรียน
ควรจัดอาหารให้ครบทั้ง 3 มื้อ ไม่ควรเว้นมื้อใดมื้อหนึ่ง โดยเฉพาะมื้อเช้า มื้อเช้าเป็นมื้อที่สำคัญที่สุดสำหรับเด็ก ไม่ควรปล่อยให้เด็กอดอาหารเช้า
ควรจัดอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่ ในแต่ละมื้อควรมีอาหารจากทุกหมู่ให้เด็กได้รับประทาน
ควรเลือกอาหารที่สดใหม่และสะอาด
ควรปรุงอาหารให้สุกเสมอ ความสำคัญของวัยเรียน
ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันและน้ำตาลสูง
ตัวอย่างอาหารที่เหมาะสมสำหรับเด็กวัยเรียน
อาหารเช้า ข้าวต้มหมู ข้าวโอ๊ต ขนมปังโฮลวีต ไข่ต้ม นม
อาหารกลางวัน ข้าวสวย แกงจืด ปลา ผัก ผลไม้
อาหารเย็น ข้าวสวย ต้มยำกุ้ง อกไก่ ผัก ผลไม้
อาหารว่าง ผลไม้ นม โยเกิร์ต ถั่ว
พัฒนาการของเด็กวัยเรียนตามช่วงวัย
พัฒนาการของเด็กวัยเรียนสู่วัยรุ่นตามช่วงวัย แบ่งออกเป็น 2 ช่วงวัย ได้แก่
ช่วงวัยแรก (6-8 ปี)
พัฒนาการด้านร่างกาย : ร่างกายเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว กล้ามเนื้อมัดใหญ่และมัดเล็กแข็งแรงขึ้น สามารถวิ่ง กระโดด ปีนป่ายได้คล่องแคล่ว กล้ามเนื้อมือพัฒนาขึ้น สามารถเขียนหนังสือได้
พัฒนาการด้านสติปัญญา : เริ่มมีความคิดรวบยอด สามารถแยกแยะสิ่งต่างๆ ได้ รู้จักการเปรียบเทียบ คิดวิเคราะห์ แก้ปัญหาได้
พัฒนาการด้านภาษา : สามารถใช้ภาษาสื่อสารได้อย่างคล่องแคล่ว สามารถเล่าเรื่องได้ เข้าใจความหมายของคำศัพท์และประโยคที่ซับซ้อนมากขึ้น
พัฒนาการด้านสังคม : เริ่มมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นมากขึ้น รู้จักการแบ่งปัน ช่วยเหลือผู้อื่น รู้จักกฎระเบียบและมารยาททางสังคม
พัฒนาการด้านอารมณ์ : เริ่มมีอารมณ์ที่หลากหลายมากขึ้น รู้จักควบคุมอารมณ์ของตนเอง
กิจกรรมส่งเสริมพัฒนาการด้านร่างกาย
ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เล่นกีฬา เล่นกิจกรรมกลางแจ้ง
ฝึกการเคลื่อนไหวร่างกาย เช่น วิ่ง กระโดด ปีนป่าย ช่วงระหว่างวัยเรียน
ฝึกกล้ามเนื้อมัดเล็ก เช่น จับดินสอ ระบายสี ตัดกระดาษ
ดูแลสุขภาพฟัน แปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น